เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับการพยาบาล
สารสนเทศทางการพยาบาล ( Nursing Information ) คือ การใช้ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ความรู้ทางด้านสารสนเทศ และความรู้ทางด้านการพยาบาล เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติพยาบาล การบริการสุขภาพ และการบริหารการพยาบาล สารสนเทศทางการพยาบาลต้องมีลักษณะสำคัญ คือ เนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับการพยาบาล ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการช่วยจัดการข้อมูลสื่อสาร หรือการดัดแปลงข้อมูลทางการพยาบาล
ประโยชน์ของการใช้สารสนเทศทางการพยาบาลในการบริหาร
นักทฤษฎีบริหารสมัยใหม่ส่วนมากเชื่อว่า การบริหารจัดการนั้นจะขาดสารสนเทศไม่ได้ เพราะว่าการวินิจฉัยสั่งการ หรือการบริหารจะต้องอาศัยพื้นฐานของเหตุผล ซึ่งได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ หรือสารสนเทศที่มีอยู่ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ในลักษณะของสารสนเทศ เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการ บริหาร การวินิจฉัยสั่งการ การควบคุมกำกับการ การติดตามและการประเมินผล ผู้บริหารที่มุ่งประสิทธิภาพจะต้องจัดให้มีกระบวนการวางแผน การกำหนดวิเคราะห์ การวางรูปแบบระบบสารสนเทศในองค์กรที่ตนรับผิดชอบอย่างเหมาะสม
คุณลักษณะที่ดีของระบบสารสนเทศในการบริหารการพยาบาล
ระบบสารสนเทศในการบริหารที่ดี ควรมีลักษณะ 10 ประการ คือ 1.พึงระลึกว่าสารสนเทศมิใช่ข้อมูล จึงควรทำการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และเสนอในลักษณะของสารสนเทศเพื่อสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในการบริหาร
2. ความเกี่ยวพันของสารสนเทศ ( Relevance ) สารสนเทศที่จะรวบรวม ควรเป็นสารสนเทศที่เกี่ยวพันกัน หรือสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ที่นำไปใช้
3. ความไวของสารสนเทศ ( Sensitive ) สารสนเทศที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร จะต้องมีความไว สามารถบ่งบอกหรือแสดงความหมายในสิ่งที่ต้องการทราบได้ถูกต้อง
4. ความถูกต้องเที่ยงตรงของสารสนเทศ ( Unbias ) สารสนเทศที่ได้จากการเก็บรวบรวม การวิเคราะห์ และการนำเสนอ ควรถูกต้องและเที่ยงตรงต่อความเป็นจริง มิใช่เพียงเพื่อให้ผู้บริหารพึงพอใจ
5. ลักษณะเบ็ดเสร็จของสารสนเทศ หรือการนำเสนอสารสนเทศ ควรอยู่ในลักษณะที่รวบรวมสิ่งสำคัญๆ สามารถตรวจสอบหรือพิจารณาโดยผู้บริหารได้โดยง่ายหรือง่ายต่อความเข้าใจ
6. เวลาที่เหมาะสมของสารสนเทศ สารสนเทศที่ได้รับการเก็บรวบรวม วิเคราะห์และจัดเตรียม จะต้องทันเวลาในการที่จะต้องใช้งาน
7. สารสนเทศเพื่อเน้นการดำเนินการ ( Action Oriented ) สารสนเทศควรจะได้รับการวิเคราะห์ ในลักษณะที่สนับสนุนกระบวนการบริหาร การวินิจฉัยสั่งการหรือการดำเนินการต่างๆในอนาคต
8. รูปแบบลักษณะเดียวกันของสารสนเทศ ( Uniformity ) สารสนเทศที่ดีควรจะมีลักษณะที่คล้ายคลึง มีรูปแบบเดียวกัน สามารถเปรียบเทียบใช้สารสนเทศร่วมกันได้อย่างมีมาตรฐานเดียวกัน
9. สารสนเทศเพื่อเป้าหมายการปฏิบัติการ ( Performance Target ) สารสนเทศควรได้รับการกำหนด และเก็บรวบรวมโดยอาศัยวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นพื้นฐาน
10. ความคุ้มค่าของสารสนเทศ ( Cost Effectiveness ) ผลประโยชน์ที่ได้จากการรวบรวม การวิเคราะห์และการนำเสนอสารสนเทศควรมีมากกว่าต้นทุนที่ใช้
แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการพยาบาล
1. นำมาใช้ในการจัดคน จัดเวร ( Staffing and Scheduling ) โดยอาศัยข้อมูลที่บันทึกไว้เกี่ยวกับผู้ป่วย และบุคลากรพยาบาลที่สามารถแบ่งประเภทผู้ป่วยได้ และมีกิจกรรมการพยาบาลที่ได้ปฏิบัติแล้วปรากฏในคอมพิวเตอร์ ก็จะสามารถคาดคะเนความต้องการบุคลากรพยาบาลได้ และจัดคนในแต่ละเวรได้โดยเร็วและถูกต้องที่สุดด้วย
2. นำมาใช้ในการประเมินความสามารถในการทำงาน ( Performance Evaluation ) โดยใช้ข้อมูลบุคลากร และการปฏิบัติงานประจำวันเป็นรากฐาน
3. นำมาใช้ในการออกแบบโครงการ จัดตารางการทำงาน และประเมินผลงาน
4. นำมาใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจ ในการบริหารเพื่อการหาผลผลิต เพื่อการกำหนดรูปแบบและวิเคราะห์ประสิทธิผลของการบริหาร การทำนาย การพยากรณ์ ในอนาคต การกำหนดแนวโน้มของการดำเนินการ การประเมินโครงการ ซึ่งจะเรียกว่า ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
5. นำมาใช้ในการวางแผนการเงิน และการจัดการ
6. นำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์
คือการร่วมวางแผนระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายเทคนิค เนื่องจากการจัดทำระบบสารสนเทศจะเป็นการกำหนดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องมีการร่วมมือกัน เพราะฝ่านบริหารจะทราบกลยุทธ์ วัตถุประสงค์และเป้าหมายในการพัฒนาระบบสารสนเทศที่มีประโยชน์สำหรับองค์กรได้ดี ในขณะที่ความสามารถทางด้านเทคนิคอาจจะไม่เด่นชัดนัก ส่วนฝ่ายเทคนิคจะมีความสามารถและความชำนาญทางด้านการสร้างความเป็นเลิศทางเทคนิคแต่ไม่มีความชำนาญทางด้านการบริหารและขาดความรู้ที่เฉพาะทางด้านองค์กรนั้นๆ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายต้องมีการประสานงานกันอย่างดี เพื่อทำการพัฒนาและจัดทำระบบสารสนเทศที่ดีขึ้น
แนวคิดของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการทางการพยาบาล
การทำงานในแต่ละองค์กร แบ่งออกเป็นหลายระดับดังนี้
ผู้ใช้ คือ พยาบาลประจำการ
สารสนเทศนำเข้า คือ จำนวนผู้ป่วย ชื่อผู้ป่วย เบอร์เตียง โรค อาการปัจจุบัน ผลการตรวจรักษา เป็นต้น
การปฏิบัติการ คือ การวางแผนการทำงานให้กิจกรรมพยาบาลเป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ การเขียน หรือการบันทึกงานที่ทำ
สารสนเทศที่ได้ / ส่งออก คือ รายงานผลการทำงานแก่พยาบาล รายงานแก่หัวหน้าเวร
ในระดับปฏิบัติการ การทำงานจะเป็นงานพื้นฐานซึ่งเป็นงานประจำขององค์กร โดยมีวิธีการทำงานค่อนข้างแน่นอน มีกฏเกณฑ์ตายตัว การทำงานเป็นแบบเดิมซ้ำๆ กันได้ปริมาณงานที่ค่อนข้างมาก
ผู้ใช้ คือ หัวหน้าเวร หัวหน้าหอผู้ป่วย หัวหน้าสำนักงาน หัวหน้าห้องตรวจปฏิบัติการ เป็นต้น
สารสนเทศนำเข้า คือ จำนวนผู้ป่วยในหอผู้ป่วยที่รับผิดชอบ จำนวนบุคลากรที่ขึ้นปฏิบัติงาน จำนวนผู้ป่วยหนักในหอผู้ป่วย รายชื่อแพทย์เวร เป็นต้น
การปฏิบัติงาน คือ ควบคุมดูแลการทำกิจกรรมบำบัดที่สำคัญของผู้ป่วยทั้งหมด การวางแผนดำเนินการภายในหอผู้ป่วย การแจกจ่ายแก่บุคลากรภายในหอผู้ป่วย การสรุปงานทั้งหมดของหอผู้ป่วย เป็นต้น
สารสนเทศที่ได้ / ส่งออก คือ การสื่อสารกับหอผู้ป่วยอื่นๆ รายงานผู้ตรวจการ รายงานหัวหน้าแผนก รายงานแพทย์เวร เป็นต้น
ในระดับการบริหารจัดการระดับต้น จะดำเนินการกำหนดกิจกรรมการทำงานของหอผู้ป่วยของตน การควบคุมผู้ปฏิบัติการ การทำงานจะใช้สารสนเทศจากระดับปฏิบัติการมาเพื่อประกอบการตัดสินใจทำงาน และควบคุมงาน โดยผลจากการทำงานระดับนี้ จะได้รายงานสารสนเทศที่สรุปการทำงานรายเวร รายวัน รายเดือน รายปี เพื่อส่งต่อไปยังผู้บริหารระดับกลางต่อไป
ผู้ใช้ คือ ผู้ตรวจการพยาบาล หัวหน้างานฝ่ายต่างๆ เป็นต้น
สารสนเทศนำเข้า คือจำนวนผู้ป่วยในแต่ละหอผู้ป่วย จำนวนผู้ป่วยรวมทั้งแผนก จำนวนผู้ป่วยหนักในแต่ละหอผู้ป่วย จำนวนผู้ป่วยหนักรวมทั้งแผนก จำนวนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแต่ละหอผู้ป่วย เป็นต้น
การปฏิบัติงาน คือ การวางแผนการทำงาน การให้การช่วยเหลือแก่หอผู้ป่วยที่มีปัญหาต่างๆ การเขียนบันทึกสรุปรายงานและประเมินปัญหา ประเมินผลงานรวมของทั้งแผนก เป็นต้น
สารสนเทศที่ได้ / ส่งออก คือ การสื่อสารรายงานที่แสดงต่อหัวหน้า เพื่อหาวิธีการช่วยเหลือ สนับสนุน หรือเพิ่มศักยภาพการทำงานของทุกแผนกงานให้ทำงานได้มาตรฐานและบรรลุตามเป้าหมายอย่างทั่วถึง เป็นต้น
ในระดับการบริหารจัดการระดับกลาง เป็นระดับการควบคุมที่สูงขึ้นไปอีก โดยจะใช้สารสนเทศจากการทำงานของผู้บริหารระดับต้น รวมทั้งสารสนเทศจากระดับย่อยต่างๆ และจากฝ่ายงานต่างๆ เพื่อวางแผนระยะยาว รวมทั้งร่วมกำหนดยุทธวิธีดำเนินงาน กำหนดกฏระเบียบนโยบายปฏิบัติงาน เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานระดับรองลงมาให้เป็นไปตามนโยบายขององค์กร ผลการทำงานระดับนี้เป็นรายงานสารสนเทศที่สรุปผลจากการทำงานรายปี รายงานจุดด้อย จุดเด่นขององค์กร ส่งต่อไปยังผู้บริหารระดับสูงต่อไป
ผู้ใช้ คือ หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล หรือผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล เป็นต้น
สารสนเทศนำเข้า คือ จำนวนผู้ป่วยทั้งโรงพยาบาล จำนวนบุคลากรแพทย์ จำนวนบุคลากรพยาบาล เงินงบประมาณ รายรับรายจ่ายรวม เป็นต้น
การปฏิบัติงานคือ การวางแผนกลยุทธ์ การกำหนดนโยบาย การจัดสรรเงินงบประมาณ เป็นต้น
สารสนเทศที่ได้ / ส่งออก คือผลประโยชน์ ผลกำไร รางวัล ชื่อเสียง การรับรองมาตรฐาน เป็นต้น
ในระดับการบริหารจัดการระดับสูง จะใช้สารสนเทศที่รายงานจากการทำงานของผู้บริหารระดับกลาง ของหลายแผนกงาน มาประกอบกับสารสนเทศภายนอกองค์กร รวมถึงใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ส่วนตัวในการตัดสินใจ เพื่อวางแผนระยะยาว กำหนดยุทธวิธีให้องค์กรประสบความสำเร็จ มีผลกำไร ซึ่งผลการทำงานระดับนี้ได้สารสนเทศนำเสนอต่อประชาชน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น สาธารณชน รัฐบาล เป็นต้น
ในแต่ละระดับของผู้ใช้ ต้องการใช้สารสนเทศที่แตกต่างกันออกไป โดยในระดับที่สูงขึ้น ความต้องการสารสนเทศจะเป็นแบบสรุป ผ่านการดำเนินการกลั่นกรองแล้วจากผู้ใช้ระดับล่าง โดยในระดับสูงสุดจะต้องใช้สารสนเทศจากภายนอกองค์กร รวมทั้งใช้ประสบการณ์ส่วนตัวไตร่ตรองพิจารณาจึงตัดสินใจออกมาเป็นแผนงาน ระยะยาวขององค์กร
2. ความเกี่ยวพันของสารสนเทศ ( Relevance ) สารสนเทศที่จะรวบรวม ควรเป็นสารสนเทศที่เกี่ยวพันกัน หรือสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ที่นำไปใช้
3. ความไวของสารสนเทศ ( Sensitive ) สารสนเทศที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร จะต้องมีความไว สามารถบ่งบอกหรือแสดงความหมายในสิ่งที่ต้องการทราบได้ถูกต้อง
4. ความถูกต้องเที่ยงตรงของสารสนเทศ ( Unbias ) สารสนเทศที่ได้จากการเก็บรวบรวม การวิเคราะห์ และการนำเสนอ ควรถูกต้องและเที่ยงตรงต่อความเป็นจริง มิใช่เพียงเพื่อให้ผู้บริหารพึงพอใจ
5. ลักษณะเบ็ดเสร็จของสารสนเทศ หรือการนำเสนอสารสนเทศ ควรอยู่ในลักษณะที่รวบรวมสิ่งสำคัญๆ สามารถตรวจสอบหรือพิจารณาโดยผู้บริหารได้โดยง่ายหรือง่ายต่อความเข้าใจ
6. เวลาที่เหมาะสมของสารสนเทศ สารสนเทศที่ได้รับการเก็บรวบรวม วิเคราะห์และจัดเตรียม จะต้องทันเวลาในการที่จะต้องใช้งาน
7. สารสนเทศเพื่อเน้นการดำเนินการ ( Action Oriented ) สารสนเทศควรจะได้รับการวิเคราะห์ ในลักษณะที่สนับสนุนกระบวนการบริหาร การวินิจฉัยสั่งการหรือการดำเนินการต่างๆในอนาคต
8. รูปแบบลักษณะเดียวกันของสารสนเทศ ( Uniformity ) สารสนเทศที่ดีควรจะมีลักษณะที่คล้ายคลึง มีรูปแบบเดียวกัน สามารถเปรียบเทียบใช้สารสนเทศร่วมกันได้อย่างมีมาตรฐานเดียวกัน
9. สารสนเทศเพื่อเป้าหมายการปฏิบัติการ ( Performance Target ) สารสนเทศควรได้รับการกำหนด และเก็บรวบรวมโดยอาศัยวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นพื้นฐาน
10. ความคุ้มค่าของสารสนเทศ ( Cost Effectiveness ) ผลประโยชน์ที่ได้จากการรวบรวม การวิเคราะห์และการนำเสนอสารสนเทศควรมีมากกว่าต้นทุนที่ใช้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น